SEO (Search Engine Optimization) คือ กระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อทำให้เว็บไซต์ติดอันดับหน้าแรก Google ในพื้นที่ Organic Result ด้วยคำค้นหา หรือ Keyword ที่ต้องการ โดยกระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ จะทำการปรับปรุงทั้งในส่วน Website Performance, Content, UX/UI และอื่นๆ อีกหลายส่วน ตาม Best practice ที่ Google แนะนำเพื่อทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพที่ดีทั้งในแง่ของการใช้งาน และนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับสิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการ
ความแตกต่างหลักระหว่าง SEO และ SEM คือ ในส่วนของ SEO จะมุ่งเน้นที่การปรับปรุงเว็บไซต์ตาม Best practice เพื่อเพิ่ม Traffic จากผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้นจากการทำอันดับคำค้นหาให้อยู่ในตำแหน่งที่ดีในส่วนของ Organic Result ใน Google แต่ในส่วนของ SEM จะได้ Traffic จากผู้เข้าชมเว็บไซต์ผ่านการโฆษณา
ถึงแม้ว่าการทำโฆษณาแบบมีค่าใช้จ่ายในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ จะสามารถสร้าง Traffic การเข้าชมเว็บไซต์ได้ แต่ผู้ค้นหาส่วนใหญ่มักจะคลิกเข้าเว็บไซต์ผ่าน Organic result มากกว่าในตำแหน่ง Paid result นอกจากนี้ SEO ยังเป็นหนึ่งในช่องทางการตลาดออนไลน์ ที่สามารถสร้างและเพิ่ม Traffic จากการเข้าชมได้เรื่อยๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายโฆษณาเหมือนฝั่ง Paid Search การปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ เว็บไซต์ให้มีคุณภาพดี นำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้ คำค้นหา ติดอันดับอยู่ในตำแหน่งที่ดีใน Search result
White hat SEO หรือ SEO สายขาว หมายถึง แนวทางการทำ SEO ที่โฟกัสตาม Google Best Practice มีเป้าหมายปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดี มีคุณค่าให้แก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ นำเสนอข้อมูลที่มีคุณภาพตรงกับสิ่งที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ต้องการ
Black hat SEO หรือ SEO สายดำ หมายถืง เทคนิคแนวทางการทำ SEO ที่พยายามสแปม หลีกเลี่ยง ไม่เป็นไปตาม Best Practice มีความเสี่ยงที่เว็บไซต์จะถูกลงโทษยกเลิกลบออกจากผลการค้นหาใน Search Engine
การทำงานของ Search Engine จะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ
หลังจากทราบแล้วว่า Search Enging ทำงานอย่างไร อีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญมากในการทำ SEO คือ การทำ Keyword Research เพื่อค้นหา Keyword หรือ คำค้นหาที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการค้นหาเว็บไซต์เรา เพื่อให้ได้กลุ่มผู้ค้นหาที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ ดังนั้นการเลือก Keyword หรือ คำค้นหาที่ถูกต้อง เหมาะสม จึงเป็นขั้นแรกๆ ที่สำคัญมากที่จะทำให้เราประสบผลสำเร็จในการทำ SEO การคัดเลือก Keyword ที่ดีต้องคำนึงถึงหัวข้อเหล่านี้ คือ
Site Structure หรือ โครงสร้างเว็บไซต์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การทำ SEO ประสบผลสำเร็จ การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีช่วยให้ผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์มีประสบการณ์ที่ดี เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายและสะดวก ส่วนโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดีสำหรับ Search Engine ควรมีการออกแบบจัดหมวดหมู่เนื้อหาภายในเว็บไซต์ที่เป็นระเบียบง่ายในการเข้าถึงทั้ง User และ Spider
On-Page Optimization เป็นการปรับปรุงเว็บไซต์ในส่วนต่างๆ ให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพดีขึ้น เช่น Title, Meta Description, Headingม เนื้อหาภายในเว็บไซต์ รวมถึงการปรับปรุงทางด้านเทคนิคคอลด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ On-Page Optimization
Technical SEO หมายถึง การปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพทางเว็บไซต์ และเพิ่มประสิทธิภาพของ Server ที่จะช่วยให้ Spider ของ Search Engine เข้ามาเก็บข้อมูลภายในเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยทำให้อันดับของ Organic Keyword ดีขึ้น
Off-Page หรือ Off-Site เป็นกระบวนการปรับปรุงเพิ่มปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ เพื่อช่วยทำให้อันดับของเว็บไซต์ดีขึ้น ซึ่งตัวอย่างการของการเพิ่มปัจจัยภายนอก คือ การทำ Backlink เพื่อเชื่อมโยง link จากเว็บไซต์อื่น กลับมาหาเว็บไซต์ของเรา ซึ่งเว็บไซต์ที่เราจะไปทำ link กลับมา มีต้องมีการตรวจเช็คคุณภาพโดเมน มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเรา เพื่อทำให้ link ที่เราได้กลับมาเป็น link ที่มีคุณภาพและส่งผลดีในการทำ SEO
เครื่องมือฟรี ที่ควรลงทะเบียนทำการติดตั้งเพื่อใช้ในการดู Performance ของเว็บไซต์ และสถิติข้อมูลเกี่ยวกับ Search Performance มีดังนี้ คือ
WordPress คืออะไร ? WordPress คือ ระบบ CMS (Content Management System) เป็น open-source content management system…
การกู้คืน Rank จาก Negative SEO การกู้คืน Rank จาก Negative SEO (Recover from a negative SEO) ในการทำ…
หลายๆ ธุรกิจที่มี Location หลายๆ Location มักจะรวมข้อมูลต่างๆ ทั้งหมดเกี่ยวกับธุรกิจ ไว้ใน Master Landing page ที่เดียว ซึ่งเป็น big mistake…